SurfEars JUNIOR 2.0
ที่อุดหูที่พัฒนาขึ้นสำหรับเด็ก ปกป้องหูให้ปลอดภัยในขณะที่พวกเขาสามารถได้ยินเสียงพูดคุยและสนุกเวลาที่อยู่ในน้ำ
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5-12 ปี
ด้วยขนาดหูที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัย ควรใช้ช่วงอายุที่แนะนำเป็นแนวทาง หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกขนาดใดให้บุตรหลานของคุณคุณสามารถลองวัดการเปิดของช่องหูซึ่งควรมีขนาด 6-10 มม. (0.24-0.4 นิ้ว)
SurfEars คืออุปกรณ์อุดหูสำหรับกิจกรรมทางน้ำ เช่น Surfing, Swimming, Kayaking, Diving, Wake Boarding ด้วยนวัตกรรมพิเศษที่สามารถให้ได้ยินเสียงคู่สนทนาได้ตามปกติ* และยังป้องกันน้ำเข้าหู ขณะทำกิจกรรม ลดการติดเชื้อภายในหู เรียกได้ว่าช่วยป้องกันน้ำเข้าซึ่งอาจก่ออันตรายกับหู แต่ยังสามารถให้ได้ยินเสียงเป็นปกติ
- สามารถ Customize ปรับขนาด ที่อุดหูให้เข้ากับสรีระของแต่ละบุคคลได้
- ภายในบรรจุ Ear Tip มาให้ 4 Size และ Fixation Wing ให้ 2 Size
- สายยางยืด สวมใส่สบาย ในขณะเดียวกันยังยึดแน่น ไม่อึดอัด และปกป้องได้ดียิ่งขึ้น
- มาพร้อมสายคล้องคอ เพื่อป้องกันการสูญหายในระหว่างใช้งาน
- Fixation Wing แยกสีฝั่งซ้าย-ขวา เพื่อง่ายต่อการจดจำ ช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งาน
*SurfEars มีการสูญเสียเสียงแทบจะเป็น 0 เดซิเบล ในช่วงความถี่ของเสียงพูดของคู่สนทนา ซึ่งต่างจากคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ ที่ผลิตภัณฑ์สูญเสียการได้ยินมากถึง 20-30 เดซิเบล
(ข้อมูลอ้างอิงของค่า 30 เดซิเบล = การตั้งค่าเสียงดังสุด และ ต่ำสุด ในสมาร์ทโฟนของคุณ) ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อแตกต่างของ Surfears จากคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่มาก
อาการของโรค Surfer’s Ears (โรคหูขอนักเซิร์ฟ) คืออะไร?
นั่นคือ “กระดูกส่วนเกิน” (exostosis) ที่ก่อตัวขึ้นเป็นก้อนที่เติบโตภายในช่องหู สาเหตุเกิดจากการสัมผัสกับน้ำเย็นและลม เนื่องจากลมทำให้เกิดอาการหนาวสั่นเมื่อหูเปียก ซึ่งเชื่อว่า exostosis คือกลไกการป้องกันของร่างกายเพื่อป้องกันแก้วหู ปัญหาคือ exostosis เมื่อก่อตัวขึ้นแล้ว จะไม่สามารถหายไปได้ในภายหลัง แต่จะยังคงเติบโตต่อไป ซึ่งในเหล่าบรรดานักเล่นเซิร์ฟ นักว่ายน้ำ หรือนักกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ต้องเผชิญกับสภาพลมและเปียกอยู่บ่อยครั้ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการของโรคนี้ ดังนั้นจึงให้ชื่อของโรคนี้ว่า Surfer’s Ears
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของกระดูกภายในช่องหูจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่ลดลง และการได้ทำกิจกรรมทางน้ำ
อาการเป็นอย่างไร?
เมื่อช่องหูแคบลงเนื่องจากการเกิดอาการ (exostosis) น้ำจะออกได้ยากขึ้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในหู มีอาการหูแว่ว เจ็บปวด
จะทำอย่างไรกับมัน?
หากอาการ exostosis รุนแรงขึ้นวิธีเดียวที่จะเอาออกได้คือการผ่าตัดซึ่งกระดูกส่วนเกินจะถูกเจาะหรือสกัดออก ไม่ใช่ขั้นตอนที่น่าพอใจที่สุดอย่างแน่นอน ประการหนึ่งมันจะทำให้คุณไม่อยู่ในน้ำเป็นระยะเวลาหนึ่งและเมื่อทำเสร็จแล้วจะไม่ได้ป้องกันไม่ให้กระดูกกลับมาเติบโตอีก การผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่มีวิธีป้องกันที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันได้ การสวมที่อุดหูจะช่วยป้องกันหูของคุณจากองค์ประกอบต่างๆได้อย่างง่ายดาย
Swimmer’s Ear คืออะไร?
‘Swimmer’s Ear’ (ในทางการแพทย์เรียกอีกอย่างว่า otitis externa) เป็นอาการเจ็บปวดที่ผิวหนังในช่องหูเกิดการติดเชื้อ ‘Swimmer’s Ear’ มักเกิดขึ้นเมื่อมีน้ำเข้าไปในช่องหูชั้นนอก เป็นภาวะที่พบบ่อยในหมู่นักว่ายน้ำและผู้ที่ชอบเล่นน้ำเช่นนักเล่นเซิร์ฟ ใคร ๆ ก็สามารถสัมผัสกับการได้รับ ‘Swimmer’s Ear’ ได้แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้แช่น้ำอย่างเต็มที่ แต่การมีน้ำในหูเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดการอักเสบระคายเคืองและติดเชื้อได้ สาเหตุนี้คือเมื่อมีน้ำเข้าไปในหู 'แบคทีเรียที่ปกติอยู่ในช่องหู' จะเข้าไปใต้ผิวหนังทำให้เกิด ‘Swimmer’s Ear’
อาการคืออะไร?
อาการของ ‘Swimmer’s Ear’ อาจรวมถึงความเจ็บปวดแดงและบวมของช่องหูหรือรู้สึกคันภายในหู อาการปวดเมื่อดึงติ่งหูหรือเมื่อเคี้ยวอาหารก็เป็นอาการที่พบได้เช่นกัน มีการกล่าวกันว่าผู้ป่วยบางรายรายงานว่าสูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือรู้สึกว่าหู“ เต็ม”
อะไรคือความแตกต่างระหว่างหูของนักว่ายน้ำและหูของนักโต้คลื่น?
คุณหมอ Douglas Hetzler อธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง 'Swimmer's และ Surfer's Ear' และความสับสนที่พบบ่อยระหว่างศัพท์ทางการแพทย์ทั้งสอง
’Surfer’s Ear’ คือการเติบโตของกระดูกที่เกิดขึ้นในช่องหูเหมือนกับการเติบโตของน้ำเย็นโดยทั่วไป ในขณะที่ ’Swimmer’s Ear’ เกิดจากน้ำติดอยู่ในช่องหูซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรีย ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้นดร. เฮทซ์เลอร์อธิบายว่าบางคนอาจมีการทับซ้อนกันของหูของ 'นักว่ายน้ำ / นักเล่นกระดานโต้คลื่น' ในเวลาเดียวกัน ดร. เฮทซ์เลอร์ยังสัมผัสกับปรากฏการณ์ที่ผู้คนที่อยู่ในน้ำอุ่นขึ้นหรือในช่วงวันหยุดมักจะใช้เวลาอยู่ในน้ำมากขึ้นซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ’Swimmer’s Ear’ มากขึ้น
ความแตกต่างระหว่างหูของนักว่ายน้ำกับการติดเชื้อในหูในวัยเด็ก?
’Swimmer’s Ear’ และหูชั้นกลางในวัยเด็กไม่ใช่สภาพเดียวกัน หากคุณสามารถกระดิกหูชั้นนอกของเด็กได้โดยไม่เจ็บหรือไม่สบายมากกว่าอาการหูอาจไม่ใช่หูของนักว่ายน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าเด็กเล็กมักเผชิญกับภาวะทั้งสองอย่างมาก ควรปรึกษากับแพทย์จะดีที่สุด
สถิติ
มีการศึกษาที่ระบุว่าอย่างน้อยร้อยละ 10 ของประชากรจะมีอาการ ‘Swimmer’s Ear’ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงชีวิตของพวกเขา
จะทำอย่างไรกับมัน
หากคุณมีอาการคำถามหรือข้อกังวลควรปรึกษาแพทย์ของคุณ 'Swimmer’s Ear' มักได้รับการรักษาด้วยยาหยอดหูและหายขาดภายใน 7-10 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการสวมที่อุดหูการทำให้หูของคุณแห้งและสะอาดเป็นกุญแจสำคัญที่จะไม่ให้ 'Swimmer’s Ear' เข้าไป นอกจากนี้การเก็บสิ่งของให้พ้นหูเช่นสำลีก้านจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ
